วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

แก้วมังกรสมุนไพรบำรุงเลือด

แก้วมังกรสมุนไพรบำรุงเลือด 

          อุดมด้วยโปรตีนจึงช่วยเติมร่องรอยผิวให้ดูเรียบตึง ผลการวิจัยพบว่า แก้วมังกรเนื้อแดงดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต และมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือด นอกจากนี้ไฟเบอร์ในผลแก้วมังกรยังช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงบริเวณช่องคลอด บรรเทาอาการตกขาวที่ผิดปกติ (มีสีเหลืองปนหนอง ปนเลือดและมีกลิ่นเหม็น)

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

แตงโมสมุนไพรบำรุงเลือด

แตงโมสมุนไพรบำรุงเลือด

          จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยเนราดาในสหรัฐเผยว่า หากบริโภคแตงโมเพียงครึ่งผลต่อวันดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต เพราะกรดอะมิโนอาร์จีโนน์ (Arginine) ที่ร่างกายเปลี่ยนให้เป็นสารในตริกออกไซด์ (Nitric oxide) ทำให้เลือดสมบูรณ์ขึ้นถึงร้อยละ 22 จึงช่วยป้องกันภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย และภาวะหลอดเลือดแข็งตัว

          ไม่ใช่แค่ธาตุเหล็กและโปรตีนเพียงเท่านั้นที่จะช่วยให้อวัยวะภายในของเราผลิตเลือดได้อย่างเป็นปกติ แต่ยังมีวิธีที่ง่าย ๆ อีกสองสิ่งคือ การดื่มน้ำเปล่าให้บ่อยครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยให้เลือดของเราไม่มีลักษณะข้นเหนียวจนเกินไปด้วย นอกจากนี้ยังต้องทำกายบริหารทุกวัน เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนอยู่ตลอด เพียงเท่านี้ก็ช่วยปกป้องร่างกายของเราให้ห่างไกลปัญหาสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้แล้ว
เครดิต บทความจาก
http://health.kapook.com/view32831.html

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2559

กล้วยสมุนไพรบำรุงเลือด

กล้วยสมุนไพรบำรุงเลือด

          ด้วยคุณสมบัติของแร่ธาตุแมกนีเซียมที่อุดมอยู่ในกล้วย ช่วยบำรุงผิวที่ขาวซีดให้กลับมาเปล่งปลั่งดูมีเลือดฝาด จากผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ใน American Journal of Epidemiology เผยว่าการบริโภคกล้วยเป็นประจำทุกวันส่งผลต่อสุขภาพเลือดคือ ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) โดยเฉพาะในเด็กช่วงอายุ 0-2 ปี

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

อาหาร ที่ มี ธาตุ เหล็กสมุนไพรบำรุงเลือด

อาหาร ที่ มี ธาตุ เหล็กสมุนไพรบำรุงเลือด
ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ถ้าร่างกายของเราขาดธาตุเหล็กก็จะทำให้เป็นโรคโลหิตจางและทำให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อในร่างกายและสมองได้น้อยลง เซลล์ต่างๆในร่างกายโดยเฉพาะเซลล์สมองจึงเจริญเติบโตได้น้อย สมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายและการเรียนรู้จึงไม่ได้รับการพัฒนา ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอและเรียนรู้อะไรได้ช้า และทำให้ความฉลาดและความจำลดลง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เด็กๆ ทุกคนไม่อยากให้เป็นใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นจึงควรกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงซึ่งมาจาก 2 แหล่ง คือ

ธาตุเหล็กที่มาจากเนื้อสัตว์ ทั้งหมู ไก่ กุ้ง หอยชนิดต่างๆ ปลา ไข่ ตับ
ธาตุเหล็กที่มาจากพืช ได้แก่ ถั่วชนิดต่างๆ ลูกเดือย งา พริกหวาน พริกยักษ์ ยอดกระถิน ดอกโสน ต้นหอม มะเขือพวง ใบขี้เหล็ก มะเขือเทศ ผักกาดหอม ฟักทอง มันเทศ เผือก และลูกพรุน