วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559

ทับทิม สมุนไพรบำรุงเลือด

ทับทิม ผลไม้ สมุนไพรบำรุงเลือด

      ผลการวิจัยในสหรัฐพบว่า ทับทิมสามารถรักษาผู้ป่วยเบาหวานได้ด้วยคุณสมบัติช่วยกักเก็บเซลล์เม็ดเลือดแดง โดยให้ผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 10 คนดื่มน้ำทับทิมคั้นสดวันละ 1 แก้ว (6 ออนซ์) เป็นเวลา 3 เดือน ผลคือร่างกายมีระดับอินซูลินในกระแสเลือดลดลง ระบบไหลเวียนโลหิตเป็นปกติขึ้น อาการมึนงง อ่อนเพลีย และผมร่วงลดลง อีกทั้งผิวพรรณก็สดใสขึ้นกว่าเดิม

สตรอว์เบอร์รี่สมุนไพรบำรุงเลือด

สตรอว์เบอร์รี่สมุนไพรบำรุงเลือด

          ด้วยคุณสมบัติของวิตามินซีที่อุดมอยู่ในผลสตรอว์เบอร์รี ช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดง เมล็ดเล็ก ๆ ที่อยู่ในเนื้อสตรอว์เบอร์รีช่วยลำเลียงออกซิเจนในกระบวนการขจัดเลือดเสีย จากผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food Chemistry พบว่าอาสาสมัครผู้บริโภคสตรอว์เบอร์รีสดทุกวันประมาณ 2 ถ้วยตวงติดต่อกันนาน 1 เดือน มีผลการตรวจเลือดพบว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นอย่างเป็นปกติมากขึ้นคือ 4, 8, 12, 16 เซลล์จึงส่งผลให้ผิวพรรณภายนอกดูเรียบเนียนเปล่งปลั่งขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

แก้วมังกรสมุนไพรบำรุงเลือด

แก้วมังกรสมุนไพรบำรุงเลือด 

          อุดมด้วยโปรตีนจึงช่วยเติมร่องรอยผิวให้ดูเรียบตึง ผลการวิจัยพบว่า แก้วมังกรเนื้อแดงดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต และมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือด นอกจากนี้ไฟเบอร์ในผลแก้วมังกรยังช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงบริเวณช่องคลอด บรรเทาอาการตกขาวที่ผิดปกติ (มีสีเหลืองปนหนอง ปนเลือดและมีกลิ่นเหม็น)

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

แตงโมสมุนไพรบำรุงเลือด

แตงโมสมุนไพรบำรุงเลือด

          จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยเนราดาในสหรัฐเผยว่า หากบริโภคแตงโมเพียงครึ่งผลต่อวันดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต เพราะกรดอะมิโนอาร์จีโนน์ (Arginine) ที่ร่างกายเปลี่ยนให้เป็นสารในตริกออกไซด์ (Nitric oxide) ทำให้เลือดสมบูรณ์ขึ้นถึงร้อยละ 22 จึงช่วยป้องกันภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย และภาวะหลอดเลือดแข็งตัว

          ไม่ใช่แค่ธาตุเหล็กและโปรตีนเพียงเท่านั้นที่จะช่วยให้อวัยวะภายในของเราผลิตเลือดได้อย่างเป็นปกติ แต่ยังมีวิธีที่ง่าย ๆ อีกสองสิ่งคือ การดื่มน้ำเปล่าให้บ่อยครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยให้เลือดของเราไม่มีลักษณะข้นเหนียวจนเกินไปด้วย นอกจากนี้ยังต้องทำกายบริหารทุกวัน เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนอยู่ตลอด เพียงเท่านี้ก็ช่วยปกป้องร่างกายของเราให้ห่างไกลปัญหาสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้แล้ว
เครดิต บทความจาก
http://health.kapook.com/view32831.html

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2559

กล้วยสมุนไพรบำรุงเลือด

กล้วยสมุนไพรบำรุงเลือด

          ด้วยคุณสมบัติของแร่ธาตุแมกนีเซียมที่อุดมอยู่ในกล้วย ช่วยบำรุงผิวที่ขาวซีดให้กลับมาเปล่งปลั่งดูมีเลือดฝาด จากผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ใน American Journal of Epidemiology เผยว่าการบริโภคกล้วยเป็นประจำทุกวันส่งผลต่อสุขภาพเลือดคือ ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) โดยเฉพาะในเด็กช่วงอายุ 0-2 ปี

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

อาหาร ที่ มี ธาตุ เหล็กสมุนไพรบำรุงเลือด

อาหาร ที่ มี ธาตุ เหล็กสมุนไพรบำรุงเลือด
ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ถ้าร่างกายของเราขาดธาตุเหล็กก็จะทำให้เป็นโรคโลหิตจางและทำให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อในร่างกายและสมองได้น้อยลง เซลล์ต่างๆในร่างกายโดยเฉพาะเซลล์สมองจึงเจริญเติบโตได้น้อย สมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายและการเรียนรู้จึงไม่ได้รับการพัฒนา ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอและเรียนรู้อะไรได้ช้า และทำให้ความฉลาดและความจำลดลง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เด็กๆ ทุกคนไม่อยากให้เป็นใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นจึงควรกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงซึ่งมาจาก 2 แหล่ง คือ

ธาตุเหล็กที่มาจากเนื้อสัตว์ ทั้งหมู ไก่ กุ้ง หอยชนิดต่างๆ ปลา ไข่ ตับ
ธาตุเหล็กที่มาจากพืช ได้แก่ ถั่วชนิดต่างๆ ลูกเดือย งา พริกหวาน พริกยักษ์ ยอดกระถิน ดอกโสน ต้นหอม มะเขือพวง ใบขี้เหล็ก มะเขือเทศ ผักกาดหอม ฟักทอง มันเทศ เผือก และลูกพรุน

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

หญิงตั้งครรภ์สมุนไพรบำรุงเลือด

หญิงตั้งครรภ์สมุนไพรบำรุงเลือด
หญิงตั้งครรภ์ ต้องรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กให้เพียงพอทุกวัน ธาตุเหล็กเป็นเกลือแร่ชนิดหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต การขาดธาตุเหล็กจะทำให้เป็นโรคโลหิตจาง (โรคซีด) จากสถิติขององค์การอนามัยโลก พบว่าทั่วโลกมีผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางประมาณ ร้อยละ 30

สำหรับประชากรในประเทศที่กำลังพัฒนา สถิติของคนเป็นโรคโลหิตจางจะมีมากกว่านี้ โรคนี้พบมากในเด็กและหญิงตั้งครรภ์ ประมาณร้อยละ 50 ของหญิงตั้งครรภ์ทั่วโลกจะเป็นโรคโลหิตจางในระหว่างตั้งครรภ์ ความต้องการธาตุเหล็กจะเพิ่มขึ้นเนื่องจาก ทารกมีการเจริญเติบโตและรกก็โตขึ้นด้วย ขณะเดียวกันปริมาตรเลือดของแม่จะเพิ่มขึ้น หญิงตั้งครรภ์โดยทั่วไปจะมีธาตุเหล็กในร่างกายไม่เพียงพอ ดังนั้นความต้องการที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ประกอบกับการได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ จึงทำให้เกิดโรคโลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเห็นได้จากระดับฮีโมโกลบินในเลือดต่ำกว่าปกติ

หญิงตั้งครรภ์ที่มีระดับฮีโมโกลบินในเลือดต่ำกว่า 11.0 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร จะมีประสิทธิภาพในการทำงานและการทำงานของ สมองลดลง อีกทั้งทำให้ความต้านทานต่อโรคต่ำ โดยเฉพาะใน ระหว่างคลอดลูกจะมีการสูญเสียเลือด หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจางจะมีปัญหาและบางรายอาจถึงตายเพราะเสียเลือดมาก ซึ่งจะพบใน รายที่มีระดับฮีโมโกลบินในเลือดต่ำกว่า 8.0 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร

ส่วนทารกที่คลอดจากแม่ที่เป็นโรคโลหิตจาง จะมีน้ำหนักแรก เกิดต่ำกว่าปกติซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยและการตายของทารก

เพื่อคุณภาพชีวิตของแม่และลูก หญิงตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารที่มีเหล็กให้เพียงพอ เช่น ตับ เลือด เนื้อสัตว์ ไก่ ปลา ผักสี เขียวเข้ม (ร่างกายจะดูดซึมเหล็กที่มีอยู่ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ได้ดี กว่าเหล็กที่มีในอาหารประเภทพืชผัก) และอย่าลืมรับประทานยาเม็ดธาตุเหล็กที่แพทย์ให้เมื่อท่านไปรับการตรวจครรภ์


http://www.healthcarethai.com/